เซี่ยงไฮ้, 13 มกราคม 2568 /PRNewswire/ — ความขัดแย้งระหว่างพลังงานและสิ่งแวดล้อมได้ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นอันเนื่องมาจากจำนวนประชากรโลกที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและการขยายตัวที่รวดเร็วของอุตสาหกรรม การแสวงหาสมดุลระหว่างแหล่งพลังงานและการปกป้องสิ่งแวดล้อมจึงกลายเป็นปัญหาสำคัญสำหรับการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั่วโลก
ในเดือนมกราคม 2568 SUS ENVIRONMENT ได้เปิดตัวอัตลักษณ์แบรนด์ระดับโลกโฉมใหม่ โดยมุ่งเน้นปรับปรุงภาพลักษณ์และเสริมสร้างความหมายแฝงของแบรนด์ พร้อมตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทในการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั่วโลก
ส่วนที่ 1: การปรับโลโก้ใหม่
อักษรย่อ "SUS" ซึ่งมาจากคำว่า "ยั่งยืน" (sustainable) ตอกย้ำถึงพันธกิจของบริษัทในการสร้างสภาพแวดล้อมเพื่อการอยู่อาศัยที่สะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นผ่านโซลูชันการเปลี่ยนขยะเป็นพลังงาน กราฟิกของโลโก้ได้แรงบันดาลใจจากแผนภาพไท้เก๊กแบบดั้งเดิมของจีน โดยผสานแนวคิดของการผลิตแบบวนซ้ำ แสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติของการรีไซเคิลพลังงาน และความมีชีวิตชีวาที่ไม่มีที่สิ้นสุดของแบรนด์
ส่วนที่ 2: การขยายความหมายของพันธกิจ
แบรนด์โฉมใหม่ยังเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นอย่างไม่ลดละของ SUS ENVIRONMENT เพื่อผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย:
- ด้านสิ่งแวดล้อม: การแก้ไขปัญหาการกำจัดขยะเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่สะอาดยิ่งขึ้น
- ความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน: ส่งเสริมความหลากหลาย ความเสมอภาค และการมีส่วนร่วม เพื่อเพิ่มความพึงพอใจของพนักงาน
- การมีส่วนร่วมของชุมชน: การสร้างสภาพแวดล้อมเอื้ออำนวยต่อการยกระดับมาตรฐานการดำรงชีวิตในชุมชน
- ความซื่อสัตย์ทางธุรกิจ: การสร้างแนวทางปฏิบัติที่ยุติธรรมและโปร่งใสเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือ
ส่วนที่ 3: สีประจำแบรนด์
สีหลักประจำแบรนด์ SUS ENVIRONMENT ได้แก่สีน้ำเงินและสีเขียว โดยเป็นสัญลักษณ์ของนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและการปกป้องสิ่งแวดล้อม ทั้งสองสีถูกเสริมด้วยสีทองเมทัลลิกและสีเงินเพื่อสื่อถึงคุณภาพและความเสถียรระดับสูง เมื่อนำมารวมกันแล้ว สีเหล่านี้จึงแสดงถึงค่านิยมหลักของแบรนด์ ได้แก่ ความเป็นมืออาชีพ นวัตกรรม ความมีชีวิตชีวา และความน่าเชื่อถือ
อัตลักษณ์แบรนด์ระดับโลกโฉมใหม่นี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับก้าวต่อไปในอนาคตของ SUS ENVIRONMENT โดยบริษัทจะอาศัยความแข็งแกร่งของตนเพื่อทำให้โลกเป็นสถานที่ที่ดียิ่งขึ้น
เกี่ยวกับ SUS ENVIRONMENT
SUS ENVIRONMENT เป็นผู้ให้บริการอุปกรณ์และเทคโนโลยีการเผาขยะที่ใหญ่ที่สุดในโลก รวมถึงเป็นหนึ่งในสามผู้ลงทุนและผู้ดำเนินการโครงการแปลงขยะเป็นพลังงาน (นิคมอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำเชิงนิเวศ) รายใหญ่ที่สุดของโลก
ณ เดือนมิถุนายน 2567 SUS ENVIRONMENT ได้จัดตั้งศูนย์บริหารจัดการ 10 แห่งทั่วโลก ซึ่งให้บริการด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงานแก่ผู้คนกว่า 100 ล้านคน บริษัทได้ลงทุนและก่อสร้างโครงการแปลงขยะเป็นพลังงาน (นิคมอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำเชิงนิเวศ) จำนวน 84 โครงการ โดยมีกำลังการแปรรูปขยะมูลฝอยในระดับเทศบาลอยู่ที่ 110,000 ตันต่อวัน และกำลังผลิตพลังงานสีเขียวที่ราว 18,000 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี อุปกรณ์และเทคโนโลยีของบริษัทถูกนำไปใช้ในโรงงานแปลงขยะเป็นพลังงานกว่า 277 แห่งทั่วโลก ซึ่งประกอบด้วยสายการเผา 518 สาย โดยมีกำลังการแปรรูปขยะมูลฝอยระดับเทศบาลอยู่ที่ 290,000 ตันต่อวัน