เซี่ยงไฮ้, 13 พฤษภาคม 2567 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ — SANY Heavy Industry หรือ SANY ผู้ผลิตเครื่องจักรก่อสร้างชั้นนำ ได้เผยแพร่รายงานว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืนประจำปีอย่างเป็นทางการ ซึ่งให้รายละเอียดเกี่ยวกับความคิดริเริ่มและความสำเร็จต่าง ๆ ของ SANY ในการพัฒนากระบวนการลดการปล่อยคาร์บอนเต็มรูปแบบ ในขณะที่โลกเผชิญกับความท้าทายด้านสภาพอากาศที่รุนแรง เพื่อส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรมากความสามารถด้านสิ่งแวดล้อมที่เน้นความหลากหลาย พร้อมสะท้อนความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าและการลงทุนด้านสวัสดิภาพสังคมเพื่อเสริมสร้างค่านิยมร่วมกัน
คุณ Xiang Wenbo ประธานกรรมการของ SANY Heavy Industry กล่าวว่า "รายงานการพัฒนาที่ยั่งยืนประจำปีของ SANY นำเสนอความคืบหน้าและความสำเร็จของบริษัทฯ ในการลดการปล่อยคาร์บอน ตลอดจนความมุ่งมั่นของเราในการปกป้องสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืน SANY กำลังตอบสนองต่อความท้าทายด้านสภาพอากาศทั่วโลก และมุ่งดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อบรรลุเป้าหมาย ‘Dual-Carbon’ เรามุ่งพลิกโฉมและผลักดันอุตสาหกรรมให้พัฒนาก้าวหน้า และมีส่วนสนับสนุนอย่างจริงจังในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและยกระดับการพัฒนาพลังงานสะอาด"
ความยั่งยืน: ลงทุนอย่างต่อเนื่องในด้านพลังงานทดแทน พร้อมส่งเสริมการจัดการในเรื่องการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
SANY อาศัยมาตรการอันเข้มงวดในการส่งเสริมการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์และไฮโดรเจน SANY โดยได้เข้ามาเร่งการใช้พลังงานสะอาด ซึ่งรวมถึงพลังงานแสงอาทิตย์และไฮโดรเจน ซึ่ง ณ ปลายปี 2566 นั้น บริษัทในเครือของ SANY รวม 21 แห่งมีอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใช้งานอยู่ ซึ่งมีการใช้พลังงานสะอาดรวมอยู่ที่ 44,815.9 kWh หรือคิดเป็นสัดส่วน 6.55%
ในปี 2566 SANY มีความเข้มข้นในการปล่อยสารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOC) อยู่ที่ 0.00136 ตันต่อล้านหน่วย ลดลง 23% จากปีฐานที่บรรลุเป้าหมาย ส่วนความหนาแน่นของการปล่อยน้ำเสียอยู่ที่ 5.42 ตันต่อล้านหน่วย ลดลง 38% จากปีฐาน
ขณะเดียวกัน SANY ยังให้บริการบำรุงรักษาฟรี เพื่อยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ปิดเครื่องทั่วโลก เพื่อนำอุปกรณ์ที่ล้าสมัยมาใช้ใหม่ ขณะเดียวกันก็สำรวจแนวทางในการรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์และอัปเกรดกล่องกระดาษแข็งและกล่องไม้ โดยในปี 2566 บริษัทฯ ประหยัดวัสดุบรรจุภัณฑ์ได้ 2.2 ล้านหยวน (303,820 ดอลลาร์สหรัฐ) และลดขยะมูลฝอยได้เป็นอย่างมาก
ก้าวสู่ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม: โรงงานและซัพพลายเชนสีเขียว
SANY นำความคิดริเริ่มในการประหยัดพลังงานมารวมอยู่ในการผลิตและการดำเนินงานทุกมิติ โดยในปี 2566 นั้น การใช้พลังงานต่อมูลค่าการผลิต 10,000 หยวนในพื้นที่การผลิตอยู่ที่ 39.53 หยวน (5.46 ดอลลาร์สหรัฐ) ลดลง 10.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่โครงการประหยัดพลังงานและลดการบริโภคช่วยให้ประหยัดต้นทุนพลังงานได้ 11.89 ล้านหยวน (1.64 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ในปี 2566 SANY ได้ออกแบบและสร้าง ‘โรงงานระดับไลต์เฮาส์’ ในต่างประเทศแห่งแรกในอินโดนีเซีย ซึ่งช่วยให้ผลิตแบบไม่ใช้คนควบคุมในเครือข่ายได้เต็มรูปแบบ ปัจจุบัน SANY มีโรงงานระดับไลต์เฮาส์ 33 แห่ง ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วลดต้นทุนค่าแรงลงได้ 46.33% ความสำเร็จเหล่านี้ทำให้ SANY ได้รับการยกย่องจาก Forbes China ให้เป็นหนึ่งใน "บริษัทข้ามชาติ 50 อันดับแรกของจีน" และตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา SANY ได้นำเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น อินเทอร์เน็ตเชิงอุตสาหกรรม หุ่นยนต์ และเอไอ (AI) มาใช้ในสถานการณ์การผลิตต่าง ๆ ต่อมาในปี 2566 SANY Automobile ได้รับการยกย่องจากกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของสาธารณรัฐประชาชนจีนให้เป็น "องค์กรการจัดการซัพพลายเชนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม"
งัดใช้นวัตกรรมพัฒนาบุคลากร โดยมุ่งเน้นความยั่งยืนและสวัสดิภาพสังคม
ในปี 2566 SANY จัดการฝึกอบรมไป 394 ครั้ง และมีผู้เข้าร่วม 23,993 คน โดยพนักงาน SANY ประมาณ 93% ได้เข้าร่วมการฝึกอบรมต่าง ๆ และมีเวลาฝึกอบรมเฉลี่ย 121.4 ชั่วโมง ส่วนค่าใช้จ่ายด้านการฝึกอบรมทั้งหมดของ SANY สูงถึง 56 ล้านหยวน (7.73 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
SANY ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย สุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานเป็นอันดับแรก และได้รับเลือกให้เป็น "นายจ้างดีเด่นของจีน" เป็นเวลาสามปีติดต่อกัน ซึ่ง ณ เดือนธันวาคม 2566 นั้น วิทยาลัยโพลีเทคนิค Hunan SANY Polytechnic College บ่มเพาะผู้มีความสามารถทางเทคนิคจำนวน 450 คนไปปฏิบัติงานในต่างประเทศ ผ่านหลักสูตรปฐมนิเทศ ณ สำนักงานใหญ่ด้านการจัดการในต่างประเทศ
นอกจากนี้ SANY ยังได้ลงทุน 27.872 ล้านหยวน (3.98 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในโครงการสวัสดิการสาธารณะและสวัสดิการสังคมต่าง ๆ ขณะที่แพลตฟอร์ม "SANY Public Welfare" มีอาสาสมัครที่ลงทะเบียนแล้ว 17,002 คน ขณะนี้ SANY มีทีมอาสาสมัคร 51 ทีม รวมทั้งหมด 714 คน โดยมีเวลาให้บริการอาสาสมัครสะสมมากถึง 2,266.2 ชั่วโมง
ทั้งนี้ SANY ยังคงเดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งและขยายทีม โดยดึงบุคคลที่มีความสามารถจากภูมิหลังที่หลากหลายมาทำงานด้วย โดย ณ ปลายปี 2566 บริษัทฯ มีพนักงานเต็มเวลา 25,930 คน โดย 10% ของทีมผู้บริหารเป็นผู้หญิง