โทรอนโต, 23 สิงหาคม 2567 /PRNewswire/ — Manulife Investment Management (Manulife IM) ผู้จัดการทุนธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยสินทรัพย์ในการดูแลกว่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในด้านป่าไม้และการเกษตร1 ได้เปิดตัวรายงาน 3 ฉบับใหม่ เพื่ออธิบายถึงวิธีการนำปัจจัยด้านสภาพภูมิอากาศและธรรมชาติที่มีนัยสำคัญทางการเงินมาประกอบการบริหารสินทรัพย์และการสร้างพอร์ตการลงทุน เปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในตลาดสามารถใช้ข้อมูลเชิงลึกจากรายงานความยั่งยืนด้านทุนธรรมชาติ Natural Capital Sustainability รายงานคณะทำงานด้านการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ Task Force on Climate-Related Financial Disclosures (TCFD) และรายงานการลงทุนอย่างยั่งยืนและรับผิดชอบ Sustainable and Responsible Investing (SRI) ของ Manulife IM ได้ เพื่อเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนอย่างยั่งยืน และประเมินความเสี่ยงและโอกาสต่าง ๆ ในการลงทุน ทั้งสินทรัพย์ในตลาดและนอกตลาด
รายงานเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Manulife IM ในการสร้างผลตอบแทนการลงทุนที่แข็งแกร่งในระยะยาว ความสำคัญของทุนธรรมชาติต่อสุขภาพของมนุษย์ และโอกาสที่สินทรัพย์ด้านป่าไม้และการเกษตรจะสร้างมูลค่าให้กับพอร์ตการลงทุนและโลกของเรา ตัวอย่างเช่น ในกลุ่มโซลูชันการลงทุนด้านสภาพภูมิอากาศและทุนธรรมชาตินั้น Manulife IM มีกลยุทธ์ที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนได้ลงทุนในป่าไม้ ซึ่งสร้างคาร์บอนเครดิตที่มีคุณภาพสูงได้ผ่านการจัดการที่มีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเพิ่มปริมาณคาร์บอนที่กักเก็บในป่า
"เรารู้สึกตื่นเต้นในการแบ่งปันรายงานเหล่านี้กับผู้มีส่วนร่วมในตลาด เพราะเราเชื่อว่าความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศและปัจจัยด้านความยั่งยืนอื่น ๆ ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อมูลค่าทางการเงินในระยะยาว และส่งผลต่อเป้าหมายการลงทุนของลูกค้าของเราได้" Paul Lorentz ประธานและซีอีโอของ Manulife IM กล่าว "ในทุกกระบวนการลงทุนของเรา เราพยายามคำนึงถึงความเสี่ยงที่มีผลกระทบทางการเงินทั้งหมด รวมถึงปัจจัยด้านความยั่งยืน เพราะเรามีเป้าหมายหลักในการเพิ่มผลตอบแทนจากเงินทุนที่เราบริหารในนามของลูกค้า"
รายงานความยั่งยืนด้านทุนธรรมชาติฉบับล่าสุดของ Manulife IM เน้นย้ำความสำคัญของทุนธรรมชาติต่อพอร์ตการลงทุนของสถาบัน การที่โลกพึ่งพาสินทรัพย์เหล่านี้ และวิธีที่การลงทุนเหล่านี้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มนอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ทางกายภาพที่ผลิตได้ โดยมีประเด็นสำคัญ ได้แก่
- โครงการลงทุนด้านป่าไม้ของ Manulife IM นั้นมีการปลูกต้นกล้ากว่า 50 ล้านต้น ผลิตไม้แปรรูปเพียงพอสำหรับสร้างบ้านกว่า 100,000 หลัง ผลิตไม้เส้นใยเพียงพอสำหรับทำกระดาษประมาณ 2.2 ล้านตัน และให้ชีวมวลเพียงพอที่จะผลิตไฟฟ้าสำหรับบ้านเรือนในอเมริกาได้ราว 1,500 หลังต่อปี
- Manulife IM ยังมุ่งใช้วิธีการฟื้นฟูในพอร์ตการลงทุนด้านการเกษตร เพื่อผลิตอาหารให้มากขึ้นโดยใช้ทรัพยากรน้อยลง โดยในปี 2566 นั้น โครงการของลูกค้าทั้ง 100% รายงานว่ามีการใช้วิธีการฟื้นฟูอย่างน้อยหนึ่งวิธี และ 78% ของโครงการเหล่านี้ใช้วิธีการฟื้นฟูตั้งแต่สี่วิธีขึ้นไป
- รายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับเป้าหมายด้านธรรมชาติ 5 ประการของบริษัทฯ ซึ่งสอดคล้องกับคำมั่นสัญญา Finance for Biodiversity Pledge และอยู่ในแนวทางที่จะบรรลุผลได้ภายในปี 2568 เป้าหมายเหล่านี้รวมถึงการปรับปรุงความร่วมมือและการแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับวิธีการประเมิน การรวมความหลากหลายทางชีวภาพเข้าไปในนโยบาย ESG การประเมินผลกระทบของการลงทุนต่อความหลากหลายทางชีวภาพ การใช้เป้าหมายทางวิทยาศาสตร์เพื่อปรับปรุงผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ และการรายงานประจำปีเพื่อวัดและประเมินความคืบหน้าสู่เป้าหมายด้านความหลากหลายทางชีวภาพ
"ทุนธรรมชาติไม่ใช่แค่แนวคิด แต่เป็นสิ่งที่วัดค่าและแปลงเป็นตัวเงินได้จริง อีกทั้งยังมีคุณค่าในตัวเองที่ช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจโลก" Brian Kernohan ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายความยั่งยืนของ Manulife Investment Management กล่าว "เราเชื่อว่าธรรมชาติเป็นสินทรัพย์ที่ถูกประเมินค่าต่ำเกินไป ทั้งที่มอบคุณค่าทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างแท้จริงเพื่อประโยชน์ของทุกคน"
ส่วนรายงาน TCFD ฉบับล่าสุดอธิบายวิธีที่ Manulife IM นำความเสี่ยงและโอกาสที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศมาประกอบการตัดสินใจลงทุน โดยอาศัยการกำกับดูแล กลยุทธ์ การบริหารความเสี่ยง ตลอดจนการกำหนดตัวชี้วัดและเป้าหมายที่เหมาะสม
ประเด็นสำคัญจากรายงาน TCFD ได้แก่
- พอร์ตการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลกของ Manulife IM ราว 90% ได้รับการรับรองมาตรฐานอาคารสีเขียว ทั้ง LEED, ENERGY STAR หรือ BOMA BEST2
- ป่าและฟาร์มภายใต้การบริหารของ Manulife IM ช่วยกำจัด CO2e จากชั้นบรรยากาศโดยประมาณ 1.5 ล้านตัน คำนวณจากค่าเฉลี่ยแบบเคลื่อนที่ 5 ปี
- Manulife IM มุ่งเพิ่มจำนวนและความหลากหลายของตัวเลือกการลงทุนที่ยั่งยืนให้แก่ลูกค้า
สำหรับรายงาน SRI ฉบับล่าสุดของ Manulife IM นำเสนอมุมมองเชิงลึกเกี่ยวกับแนวทางการลงทุนอย่างยั่งยืนของบริษัทฯ ไม่ว่าจะเป็นการกำกับดูแล ข้อมูลการบริหารจัดการ คะแนนจากหลักการลงทุนอย่างรับผิดชอบ (PRI) ตลอดจนความสำเร็จและผลลัพธ์ด้านความยั่งยืนอื่น ๆ
ประเด็นสำคัญจากรายงาน SRI ปีนี้ ได้แก่
- การเผยแพร่รายงานด้านธรรมชาติฉบับแรกที่สอดคล้องกับคำแนะนำของคณะทำงานด้านการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ (TNFD) โดยอธิบายแนวทางของบริษัทฯ ในการจัดการความเสี่ยงและโอกาสที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติในธุรกิจป่าไม้และการเกษตร
- การคว้าอันดับ 5 ดาวจาก GRESB เป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน3
- การกำหนดกลยุทธ์การลงทุนอย่างยั่งยืนสำหรับแพลตฟอร์มการลงทุนในกิจการเอกชนและสินเชื่อ รวมถึงการตั้งเป้าหมายระยะสั้นและข้อผูกพันระยะยาว
- การพัฒนากรอบการคัดกรองตามความต้องการของลูกค้าครอบคลุมทั้งบริษัท
- การเผยแพร่แถลงการณ์เรื่องน้ำ ซึ่งยอมรับบทบาทสำคัญของน้ำต่อสุขภาพมนุษย์ การดำรงชีวิต ระบบนิเวศ เศรษฐกิจโลก และอนาคตของการบริหารสินทรัพย์
คุณ Kernohan กล่าวสรุปว่า "ขณะที่เราก้าวไปในพื้นที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอนี้ รายงานของเรามุ่งให้ข้อมูลเชิงลึกที่ครอบคลุม เพื่อช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในทางบวกและส่งเสริมความยั่งยืนในระยะยาวผ่านกลยุทธ์การลงทุนของเรา เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาการรายงานของเราอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายเห็นความพยายามของเราได้อย่างชัดเจน ในการจัดการผลกระทบด้านสภาพภูมิอากาศและความเสี่ยงต่าง ๆ ตลอดจนการเพิ่มมูลค่าในระยะยาว"
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางการลงทุนอย่างยั่งยืนของ Manulife IM ทางออนไลน์ได้ที่: https://www.manulifeim.com/institutional/global/en/sustainability
เกี่ยวกับ Manulife Investment Management
Manulife Investment Management เป็นแบรนด์สำหรับกลุ่มธุรกิจการจัดการความมั่งคั่งและสินทรัพย์ระดับโลกของ Manulife Financial Corporation (NYSE: MFC) โดยมีภารกิจเพื่อส่งเสริมให้ผู้คนทำการตัดสินใจและมีชีวิตที่ดีขึ้นผ่านการส่งเสริมศักยภาพให้กับนักลงทุนเพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า เราได้ให้บริการบุคคล สถาบัน และสมาชิกแผนการเกษียณอายุมากกว่า 19 ล้านคน โดยเชื่อว่าการเข้าถึงในทั่วโลก ธุรกิจเสริม และจุดแข็งของบริษัทแม่จะทำให้เราสามารถช่วยนักลงทุนให้ได้รับประโยชน์จากแนวโน้มระดับโลกที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันได้ เราช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถเข้าถึงโซลูชันการลงทุนภาครัฐและเอกชน ทั้งในส่วนของหุ้น ตราสารหนี้ สินทรัพย์หลากหลาย สินทรัพย์ทางเลือก และกลยุทธ์ที่เชื่อมโยงกับความยั่งยืน เช่น ต้นทุนทางธรรมชาติ เพื่อช่วยให้พวกเขาตัดสินใจทางการเงินได้โดยมีข้อมูลมากขึ้นและบรรลุวัตถุประสงค์การลงทุนของพวกเขา ข้อเสนอบางรายการอาจไม่มีให้บริการในทุกเขตอำนาจศาล สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ manulifeim.com
มิควรสันนิษฐานว่าแนวคิดริเริ่ม มาตรฐาน หรือตัวชี้วัดด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) หรือความยั่งยืนใด ๆ ที่ระบุไว้ในเอกสารนี้ จะถูกนำไปใช้กับทุกสินทรัพย์ที่ Manulife Investment Management ลงทุน หรือได้ถูกนำไปใช้กับการลงทุนใด ๆ ของ Manulife Investment Management ในอดีต ทั้งนี้ ไม่มีการรับประกันว่าแนวคิดริเริ่มหรือความเคลื่อนไหวที่คาดการณ์ไว้ตามที่ระบุในที่นี้จะประสบความสำเร็จหรือบรรลุผลลัพธ์ตามที่คาดหวังในท้ายที่สุด ปัจจัยด้าน ESG เป็นเพียงส่วนหนึ่งของปัจจัยหลายประการที่ Manulife Investment Management นำมาพิจารณาในการตัดสินใจลงทุน และในบางสถานการณ์ ปัจจัยอื่น ๆ อาจมีน้ำหนักมากกว่าปัจจัย ESG โดยแนวคิดริเริ่มด้าน ESG หรือความยั่งยืนที่ระบุไว้จะถูกนำไปปฏิบัติกับการลงทุนในพอร์ตโฟลิโอเฉพาะในกรณีที่ Manulife Investment Management พิจารณาแล้วว่าสอดคล้องกับเป้าหมายการลงทุนโดยรวมเท่านั้น ทีมบริหารพอร์ตโฟลิโอแต่ละทีมอาจมีมุมมองที่แตกต่างกันและอาจตัดสินใจลงทุนต่างกันสำหรับลูกค้าแต่ละราย และมุมมองดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามกาลเวลา นักลงทุนควรอ่านข้อมูลบริการด้านการลงทุนหรือเอกสารเสนอขายกองทุนฉบับปัจจุบันโดยละเอียด ก่อนตัดสินใจเลือกผู้จัดการด้านการลงทุนหรือลงทุนในกองทุนใด ๆ
1. | ข้อมูลวิจัยจาก IPE ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2567 จัดอันดับโดยอ้างอิงมูลค่าสินทรัพย์ทุนธรรมชาติในการบริหารจัดการ (AUM) ทั้งหมด ซึ่งรวมถึง AUM ด้านวนศาสตร์/ป่าไม้และเกษตรกรรม/พื้นที่เพาะปลูก บริษัทต่าง ๆ ถูกขอให้แจ้งข้อมูล AUM โดยวันที่อ้างอิงอยู่ระหว่าง 31 ธันวาคม 2565 ถึง 31 ธันวาคม 2566 |
2. | ข้อมูลอ้างอิงจากพื้นที่ใช้สอยรวมหรือขนาดอาคารของทรัพย์สินในพอร์ตโฟลิโอทั่วโลก ยอดรวมจากมาตรฐานการรับรองต่าง ๆ ไม่ได้นับซ้ำ โดยทรัพย์สินที่ได้รับการรับรองหลายรายการจะนับเพียงครั้งเดียว การรับรองมาจาก LEED, ENERGY STAR Certification, BOMA BEST, GBCA Green Star, BCA Green Mark, NABERS, CASBEE, BOMA 360 และ Fitwel |
3. | อ้างอิงจากผลการประเมิน GRESB ที่เผยแพร่ในเดือนตุลาคม 2566 ครอบคลุมช่วงเวลาปี 2565 โดย Manulife Investment Management ชำระค่าธรรมเนียมการส่งข้อมูลต่อกองทุนต่อปี ระดับคะแนน GRESB เป็นการวัดภาพรวมว่าประเด็นด้านความยั่งยืนได้รับการผนวกเข้ากับการบริหารจัดการและการดำเนินงานของบริษัทและกองทุนได้ดีเพียงใด ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประเมินอสังหาริมทรัพย์ของ GRESB ได้ที่ gresb.com/nl-en/real-estate-assessment |
เอเชีย:
Carl Wong
Carl_KK_Wong@manulifeam.com
อเมริกาเหนือและยุโรป:
Elizabeth Bartlett
Elizabeth_Bartlett@manulife.com