ชิงเต่า, จีน, 6 ก.ค. 2567/PRNewswire/ — ไม่นานมานี้ ไฮเซ่นส์ (Hisense) ผู้นำเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านและสินค้าอุปโภคบริโภคระดับโลกได้เผยแท็กไลน์ใหม่ของแบรนด์ นั่นคือ "Hisense, More Than a Brand" ถือเป็นโครงการสร้างแบรนด์ครั้งสำคัญระหว่างการแข่งขันชิงแชมป์ยุโรปของยูฟ่า (UEFA EURO 2024™) ประจำปี 2567
ล่าสุด แท็กไลน์ใหม่ "Hisense, More Than a Brand" ปรากฏขึ้นพร้อมกับแบรนด์ไฮเซ่นส์ ASKO, Gorenje บนสนาม การยกระดับแบรนด์ครั้งล่าสุดนี้ตอกย้ำความมุ่งมั่นแน่วแน่ของไฮเซ่นส์ในการสร้างสถานะแข็งแกร่งระดับโลก สะท้อนให้เห็นจากการลงทุนในการตลาดด้านกีฬาเชิงกลยุทธ์ของบริษัท และสานต่อความสัมพันธ์ด้านฟุตบอลระยะยาวในฐานะพันธมิตรอย่างเป็นทางการของการแข่งขันชิงแชมป์ยุโรปของยูฟ่า ประจำปี 2567 โดยเฉพาะ
การสื่อความของไฮเซ่นส์ได้พัฒนาไปพร้อมกับความทะเยอทะยานสู่ระดับโลกและการสนับสนุนฟุตบอลมาตลอด โดยคืบหน้าจาก "Hisense TV #2 GLOBALLY Hisense TV #1 IN CHINA" ที่การแข่งขันฟีฟ่าเวิลด์คัพ ประจำปี 2565 (FIFA World Cup 2022™) มาเป็น "Never Settle for No. 2 Globally" ที่การแข่งขันชิงแชมป์ยุโรปของยูฟ่า ประจำปี 2567 พร้อมการจัดวางเทคโนโลยีการแสดงผลและเครื่องใช้ในบ้านอัจฉริยะอย่างครอบคลุมในปีนี้ กลยุทธ์ของบริษัทในการสนับสนุนด้านกีฬาในระยะยาวได้เพิ่มการรับรู้แบรนด์ทั่วโลกเป็น 54% ตามข้อมูลของอิปซอสส์ ประจำปี 2566 (Ipsos 2023) จากข้อมูลของออมเดีย (Omdia) ส่วนแบ่งปริมาณการจัดส่งทีวีทั่วโลกของไฮเซ่นส์ ไตรมาสที่ 1 ปี 2567 อยู่ที่ 13.6% โดยมีส่วนแบ่งรายได้จากการจัดส่งทั่วโลกที่ 12.1% ปัจจุบันไฮเซ่นส์อยู่ในอันดับที่ 2 ของโลกในด้านการจัดส่งทีวี และอันดับที่ 1 ในทีวีขนาด 100 นิ้วทั้งในปี 2566 และไตรมาสที่ 1 ปี 2567
ไฮเซ่นส์ กรุ๊ป ใช้กลยุทธ์แบบหลายแบรนด์ โดยมีแบรนด์อื่น ๆ อีกหลายแบรนด์ เช่น Toshiba TV, Kelon, Gorenje, ASKO, VIDAA, SANDEN, Regza, MORA เป็นต้น ตลอดหลายปีของการพัฒนาภายในและการเข้าซื้อกิจการภายนอก บริษัทได้เข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินงานและการพัฒนาระดับโลกแบบหลายแบรนด์ เป็นการสร้างเมทริกซ์แบรนด์ที่สมบูรณ์ ซึ่งส่งผลให้เกิดเมทริกซ์แบรนด์ที่สมบูรณ์และหลากหลายช่วยให้สามารถใช้กลยุทธ์แบรนด์ต่างกันในสาขาธุรกิจและกลุ่มตลาดต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความชอบและความต้องการของผู้บริโภคที่ต่างกันไป
เพื่อที่จะเป็นองค์กรระดับโลกที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับทั่วโลกนั้น ไฮเซ่นส์กำลังขยายธุรกิจไปต่างประเทศอย่างรวดเร็ว ด้วยการใช้กลยุทธ์ในการแผ่ขยายไปทั่วโลกอย่างเป็นอิสระและในระดับไฮเอนด์อย่างมีประสิทธิผลตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ด้วยเครือข่ายแข็งแกร่งทั่วโลกที่ครอบคลุมนิคมอุตสาหกรรม 34 แห่ง ศูนย์วิจัยและพัฒนา 26 แห่ง และสำนักงานในต่างประเทศ 64 แห่ง ไฮเซ่นส์มีพนักงาน 110,000 คน โดยประมาณ 24,000 คนเป็นพนักงานต่างประเทศ เครือข่ายที่กว้างขวางนี้ช่วยผลักดันการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัย การผลิตที่มีประสิทธิภาพสูงสุดด้วยห่วงโซ่อุปทานระดับโลก และกลยุทธ์การตลาดที่ปรับให้เหมาะสมเฉพาะภูมิภาค เมื่อตระหนักว่านวัตกรรมทางเทคโนโลยีเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จในอนาคต ไฮเซ่นส์จะลงทุนในการวิจัยและพัฒนาต่อไปเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมล้ำสมัยเพื่อทุ่มเทพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คน ในการให้ความต้องการของผู้ใช้มาเป็นลำดับแรก ในปี 2566 บริษัทได้ใช้ "กลยุทธ์ที่เน้นผู้ใช้เป็นศูนย์กลางและขับเคลื่อนตามสถานการณ์" เพื่อให้เข้าใจความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น การมุ่งเน้นดังกล่าวเปลี่ยนเป็นการอัปเกรดแบรนด์ล่าสุดในปี 2567 ซึ่งตอกย้ำ "เทคโนโลยีที่เน้นผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง" และ "คุณภาพสูงสุด"
ความมุ่งมั่นของไฮเซ่นส์ไปไกลเกินกว่าคุณภาพและสมรรถภาพการแสดงผลที่เหนือกว่า การตระหนักถึงความสำคัญของการตอบสนองความต้องการผู้บริโภคที่หลากหลาย การให้ความชอบของลูกค้าในพื้นที่สำคัญลำดับแรก พร้อมการปรับห่วงโซ่อุปทานที่มีประสิทธิภาพ และการสร้างการสื่อสารและความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งภายใต้การนำของ "ท้องถิ่นเพื่อท้องถิ่น" ไฮเซ่นส์จึงได้กลายเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับสากล โดยผนวกวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมเทคโนโลยีสู่ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคทั่วโลก
เกี่ยวกับไฮเซ่นส์
ไฮเซ่นส์คือแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำระดับโลก และเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการของการแข่งขันชิงแชมป์ยุโรปของยูฟ่า ประจำปี 2567 จากข้อมูลของออมเดียนั้น ไฮเซ่นส์ติดอันดับ 2 ของโลกในด้านการจัดส่งทีวี และเป็นอันดับ 1 ด้านทีวีขนาด 100 นิ้วทั้งในปี 2566 และไตรมาสที่ 1 ปี 2567 บริษัทได้ขยายการดำเนินงานอย่างรวดเร็วในกว่า 160 ประเทศ และเชี่ยวชาญสินค้ามัลติมีเดีย เครื่องใช้ในบ้าน และข้อมูลไอทีอัจฉริยะ