- หลังจากที่ได้มอบใบอนุญาตโกลเดนไลเซนส์ 5 ใบแรกไปเมื่อปี 2566 บาห์เรนก็มอบใบอนุญาตนี้อีก 4 ใบ ครอบคลุมภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งบริการทางการเงิน การผลิต ไอซีที และการท่องเที่ยว
- รายงานจากคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจบาห์เรน (Bahrain EDB)
มานามา บาห์เรน, 7 มีนาคม 2567 /PRNewswire/ — บาห์เรนกวาดเงินลงทุนได้มากถึง 2.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อันเป็นผลจากโครงการใหญ่ 9 โครงการ ซึ่งคาดว่าจะสร้างงานได้ถึง 3,000 ตำแหน่ง หลังจากที่ได้เปิดตัวใบอนุญาตโกลเดนไลเซนส์ (Golden License) ไปในเดือนเมษายน 2566 โครงการริเริ่มนี้ให้การดูแลและอำนวยความสะดวกตามจุดต่าง ๆ ของโครงการอย่างเหนือระดับ เช่น การจัดสรรที่ดิน โดยมีเป้าหมายเพื่อรักษาศักยภาพของบาห์เรนในการดึงดูดธุรกิจที่มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน
โครงการขนาดใหญ่ที่ได้รับใบอนุญาตใหม่นี้ครอบคลุมหลากหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นโรงงานไทเทเนียมแห่งแรกในภูมิภาคอย่างบาห์เรน ไทเทเนียม (Bahrain Titanium) ซึ่งจะก่อตั้งโดยบริษัทจากสวิตเซอร์แลนด์อย่างอินเทอร์ลิงก์ เมทัลส์ แอนด์ เคมิคอลส์ (Interlink Metals & Chemicals) ทั้งยังรวมถึงโครงการก่อสร้างสำนักงานใหญ่แห่งแรกนอกคูเวตของเนชันแนล แบงก์ ออฟ คูเวต (National Bank of Kuwait หรือ NBK) โครงการติดตั้งศูนย์ข้อมูลและเคเบิลใต้น้ำระดับภูมิภาคโดยบริษัทเทคโนโลยีที่มีต้นกำเนิดในบาห์เรนอย่างเบยอน (Beyon) และสุดท้ายคือโครงการพัฒนาพื้นที่ริมน้ำในเมืองสุดตื่นตาอย่างบาห์เรน มารีนา (Bahrain Marina)
ฯพณฯ นูร์ บินต์ อาลี อัลคูเลฟ (Noor bint Ali Alkhulaif) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาที่ยั่งยืน และประธานบริหารของคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจบาห์เรน (Bahrain EDB) กล่าวว่า "บาห์เรนได้พิสูจน์ตนเองแล้วในการเป็นจุดหมายปลายทางที่เชื่อถือได้ ให้บริษัททั้งในระดับท้องถิ่นและระดับโลกได้จัดตั้งหรือขยายการดำเนินงาน โดยอาศัยข้อได้เปรียบที่ไม่เหมือนใคร ใบอนุญาตโกลเดนไลเซนส์เป็นหนึ่งในโครงการริเริ่มล่าสุด ที่สะท้อนให้เห็นความมุ่งมั่นในการปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาของเราในการเป็นมิตรต่อธุรกิจ เพื่อให้ทุกขั้นตอนของความก้าวหน้าเป็นไปอย่างราบรื่น และทำหน้าที่เป็นพันธมิตรในการสร้างรากฐานที่มั่นคงเพื่อความสำเร็จในระยะยาว"
ฯพณฯ นูร์ บินต์ อาลี อัลคูเลฟ กล่าวเสริมว่า "เพื่อให้สอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติของบาห์เรน ใบอนุญาตที่มอบให้นั้นครอบคลุมหลาย ๆ ภาคส่วนสำคัญ เพื่อผลักดันโอกาสในการจ้างงาน คิดค้นนวัตกรรม และสั่งสมประสบการณ์ในอุตสาหกรรมเหล่านี้ เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นผลลัพธ์ที่การลงทุนร่วมกันเหล่านี้มีในการผลักดันเศรษฐกิจบาห์เรนให้หลากหลายและเจริญรุ่งเรือง"
ฯพณฯ อับดุลลา บิน อาเดล ฟาโคร (Abdulla bin Adel Fakhro) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการพาณิชย์บาห์เรน กล่าวว่า "สุดท้ายแล้ว บาห์เรนมีชื่อเสียงมาตลอดในเรื่องความสะดวกสบายในการทำธุรกิจ ความก้าวหน้าของกฎหมาย และความคล่องตัวของทีมบาห์เรน (Team Bahrain) โดยใบอนุญาตโกลเดนไลเซนส์ที่มอบให้ระหว่างปี 2566 และ 2567 เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างโครงการที่ถือกำเนิดขึ้นในประเทศกับโครงการระดับนานาชาติ สร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้บริษัทอื่น ๆ จากทั่วโลกในการตั้งธุรกิจในบาห์เรน ซึ่งจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ทางการค้ากับตลาดสำคัญ ๆ ทั่วโลกให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น"
ตั้งแต่ปี 2545 ถึง 2565 นั้น จีดีพี (GDP) ของบาห์เรนได้เพิ่มขึ้นจาก 9.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 4.44 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 8% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งโลกที่โตอยู่ 5.5% (2545) นอกจากนี้ บาห์เรนยังได้ทำให้ภาคเศรษฐกิจมีความหลากหลาย โดยอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่น้ำมันคิดเป็นสัดส่วน 83.6% ของจีดีพีที่แท้จริงในไตรมาส 3 ปี 2566 ซึ่งภาคบริการทางการเงินได้แซงหน้าอุตสาหกรรมน้ำมัน เป็นภาคส่วนที่มีบทบาทต่อจีดีพีที่แท้จริงมากที่สุดแล้ว โดยอยู่ที่ 18.1% ในไตรมาส 3 ของปี 2566