รอสเวลล์, นิวเม็กซิโก, 19 สิงหาคม 2567 /PRNewswire/ — Sceye บริษัทการบินและอวกาศซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านวัสดุศาสตร์ และผู้ผลิตระบบแพลตฟอร์ม High-Altitude Platform Systems (HAPS) ได้ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้เสร็จสิ้นการบินเต็มรอบช่วงกลางวันของระบบในชั้นบรรยากาศสตราโตสเฟียร์เหนือพื้นที่ปฏิบัติการ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับการบินระยะเวลาหลายเดือนหรือหลายปีโดยอาศัยพลังงานแสงอาทิตย์ตลอดช่วงเวลากลางวัน และแบตเตอรี่ที่สามารถรองรับการบินช่วงกลางคืนด้วยการชาร์จพลังงานแสงอาทิตย์ในเช้าวันรุ่งขึ้น HAPS ถูกปล่อยเมื่อเวลา 7.36 น. MST เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม จากโรงงานในนิวเม็กซิโกของบริษัท และลงจอดเมื่อเวลา 12.21 น. MST ของวันรุ่งขึ้นหลังเสร็จสิ้นการทดสอบการบิน
THE FUTURE OF NON-TERRESTRIAL INFRASTRUCTURE: SCEYE DEMONSTRATES BREAKTHROUGH DIURNAL FLIGHT IN THE STRATOSPHERE WITH RENEWABLE ENERGY
"นี่เป็นความสำเร็จสำคัญสำหรับทีมงาน Sceye ในการเปิดประตูสู่โอกาสอีกมากมายในชั้นบรรยากาศสตราโตสเฟียร์ด้วยการสร้างโครงสร้างพื้นฐานระดับใหม่ที่อยู่กึ่งกลางระหว่างโดรนและดาวเทียม" Mikkel Vestergaard Frandsen ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Sceye กล่าว ความสามารถในการลอยตัวอยู่บนชั้นบรรยากาศสตราโตสเฟียร์เป็นระยะเวลานานเหนือพื้นที่ปฏิบัติการทำให้สามารถการตรวจจับภัยพิบัติทางสภาพอากาศแบบเรียลไทม์ได้ เช่นไฟป่าและการรั่วไหลของมีเทน รวมถึงมอบการเชื่อมต่อเข้ากับผู้คนนับล้านที่ยังขาดการเข้าถึง ซึ่งโครงสร้างพื้นฐานทั่วไปไม่สามารถรองรับได้
การปล่อยตัวในวันนี้เป็นการต่อยอดวัตถุประสงค์ด้านสตราโตสเฟียร์ที่สำคัญทั้งหมดในโครงการทดสอบ Sceye 2024 ซึ่งครอบคลุมการสาธิตการบินช่วงกลางวัน การย้ายตำแหน่งอย่างมีการควบคุม และความสามารถในการคงอยู่เหนือพื้นที่ปฏิบัติการ การบรรลุวัตถุประสงค์เหล่านี้จะทำให้ Sceye สามารถเริ่มต้นกรณีการใช้งานเชิงพาณิชย์ได้
Stephanie Luongo หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการภารกิจของ Sceye กล่าวว่า "การขึ้นบินนี้เป็นการสาธิตที่สำคัญเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นของแพลตฟอร์มของเรา เราตั้งตาที่จะได้เห็นการเติบโตและขีดความสามารถที่เพิ่มขึ้นในการขึ้นบินแต่ละครั้งต่อจากนี้"
Sceye ได้บรรลุการทดสอบขึ้นบินแล้วจำนวน 20 เที่ยว โดยมีแผนขึ้นบินทดสอบเพิ่มเติมอีก 2 เที่ยวในปี 2567 ซึ่งจะทำให้แพลตฟอร์มมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์
การขึ้นบินครั้งนี้ได้บรรทุกชุดอุปกรณ์ขั้นสูง ซึ่งประกอบด้วยเครื่องมือสำหรับจัดการกับปัญหาที่สำคัญที่สุดของมนุษยชาติ ได้แก่กล้องสเตอริโอออปติคัลสำหรับการสร้างแบบจำลองระดับความสูงที่แม่นยำซึ่งใช้เพื่อทำความเข้าใจภัยพิบัติ เช่นน้ำท่วมและแผ่นดินไหว รวมถึงวิธีการบรรเทาผลกระทบ กล้องอินฟราเรดสำหรับคาดการณ์และตรวจจับไฟป่า รวมถึงการรั่วไหลของมีเทนแบบเรียลไทม์ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญสองประการของภาวะโลกร้อน อุปกรณ์ที่ถูกบรรทุกขึ้นไปยังรวมถึง synthetic aperture radar ซึ่งช่วยให้แพลตฟอร์มสามารถมองผ่านเมฆและจับตาระบบที่สำคัญที่สุดของโลกในทุกสภาพอากาศและทุกช่วงเวลาของวัน
เกี่ยวกับ Sceye
Sceye เป็นบริษัทด้านการบินและอวกาศที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2557 มีจุดประสงค์เพื่อสร้างความเป็นไปได้บนชั้นบรรยากาศสตราโตสเฟียร์ด้วยการยกระดับและเชื่อมโยงผู้คนและการปกป้องโลกของเรา บริษัทเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม High-Altitude Platform Systems (HAPS) เพื่อมอบการเชื่อมต่อที่เป็นสากลและเท่าเทียมกัน ยกระดับการติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การดูแลทรัพยากรธรรมชาติ การตรวจจับไฟป่า ตลอดจนการตรวจจับและควบคุมภัยพิบัติได้ดียิ่งขึ้น ก่อนที่จะลุกลามจนเกินการควบคุม
สื่อมวลชนสอบถามข้อมูล:
Kristian Ullum Vind
press@sceye.com
รูปภาพ – https://mma.prnasia.com/media2/2484212/Sceye_August_Flight_ID_159d87dc6eda.jpg?p=medium600