เซินเจิ้น จีน, 26 ม.ค. 2567 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ — หัวเว่ย (Huawei) ได้จัดงานเปิดตัวระดับโลก โดยเน้นที่ 10 เทรนด์สำคัญเกี่ยวกับโซลูชันฟิวชันโซลาร์ (FusionSolar) ต้อนรับปี 2567 ในหัวข้อ "สร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง พัฒนาก้าวหน้าอย่างมีคุณภาพ ผลักดันเซลล์แสงอาทิตย์ให้เป็นแหล่งพลังงานหลัก" (Continuous Innovation, High-Quality Development, Accelerating PV to Become the Main Energy Source) ซึ่งในงานนี้ คุณเหา หยิงเต่า (Hao Yingtao) รองประธานและซีเอ็มโอประจำธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์และระบบกักเก็บพลังงานอัจฉริยะของหัวเว่ย ดิจิทัล พาวเวอร์ (Huawei Digital Power) ได้พาวิเคราะห์เทรนด์โลกอนาคตอย่างครอบคลุม ประกอบด้วย 1 เทรนด์แกนหลัก 5 ฟีเจอร์สำคัญ และ 4 เทคโนโลยีพื้นฐาน เพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกอันล้ำค่าเกี่ยวกับความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมเซลล์แสงอาทิตย์ ปิดท้ายด้วยการเผยแพร่รายงานสมุดปกขาวเนื่องในโอกาสนี้
คุณเหา หยิงเต่า ชี้ให้เห็นว่า ความเป็นกลางทางคาร์บอนกำลังเป็นเรื่องมาแรงทั่วโลก ขณะที่อุตสาหกรรมเซลล์แสงอาทิตย์และระบบกักเก็บพลังงานก็กำลังเฟื่องฟู โดยทบวงการพลังงานระหว่างประเทศ (IRENA) คาดการณ์ว่า กำลังการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งแล้วจะสูงแตะหลัก 5,200 GW ภายในปี 2573 และ 14,000 GW ภายในปี 2593 ซึ่งมีพลังงานหมุนเวียนคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 90% ของกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด และพลังงานแสงอาทิตย์ก็มีบทบาทที่โดดเด่น และเมื่อพลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังงานแสงอาทิตย์ ยังคงเจาะตลาดได้อย่างต่อเนื่อง ภาคอุตสาหกรรมจึงเผชิญกับปัญหาท้าทายสำคัญในการเชื่อมต่อโครงข่าย การดำเนินงาน ความปลอดภัย และอื่น ๆ ซึ่งโอกาสและความท้าทายเป็นเรื่องที่พบเห็นร่วมกันได้เสมอ หัวเว่ยจึงมีความยินดีในการแชร์ 10 เทรนด์สำคัญ เพื่อผลักดันวงการพลังงานแสงอาทิตย์ให้พัฒนาก้าวหน้าอย่างมีคุณภาพ
เทรนด์ที่ 1: พลังงานแสงอาทิตย์และระบบกักเก็บพลังงานกำลังกลายเป็นแหล่งพลังงานที่มั่นคง
เมื่อโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์และระบบกักเก็บพลังงานมีราคาถูกลงอย่างต่อเนื่อง และมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ มากขึ้น พลังงานแสงอาทิตย์และระบบกักเก็บพลังงานก็ได้กลายเป็นแหล่งพลังงานที่มีความมั่นคง เตรียมก้าวขึ้นเป็นแหล่งพลังงานหลักในอีก 3 ปีข้างหน้า
เทรนด์ที่ 2: การจัดการโรงไฟฟ้าในหลักหลายสิบล้าน
โรงไฟฟ้ามีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก ส่งผลให้ประสิทธิภาพและความชาญฉลาดในการวางแผนการผลิต ส่ง จ่าย และใช้ไฟฟ้า ได้กลายเป็นข้อกำหนดสำคัญ
เทรนด์ที่ 3: ความชาญฉลาดตลอดวงจรชีวิต
การจัดการโรงไฟฟ้าแต่ก่อนเป็นเรื่องของการบำรุงรักษา แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปเป็นการดำเนินงานแล้ว โดยเทคโนโลยีอัจฉริยะจะเข้ามาช่วยยกระดับผลลัพธ์จากการวางแผน สร้าง บำรุงรักษา และดำเนินงานได้อย่างมีนัยสำคัญ
เทรนด์ที่ 4: สร้างโครงข่ายในทุกสถานการณ์
เทคโนโลยีสร้างโครงข่าย (Grid Forming) ประสบความสำเร็จในการนำไปใช้ทางการค้าในบางกรณี โดยจะเร่งนำไปใช้เพื่อให้รองรับได้ทุกสถานการณ์ในอนาคต ซึ่งจะเข้ามาปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้า และส่งเสริมการจัดหาพลังงานหมุนเวียนแบบ feed-in ในสเกลใหญ่
เทรนด์ที่ 5: ความมั่นคงปลอดภัยแบบ 4 มิติ
ความต้องการด้านความปลอดภัยได้เปลี่ยนจากเดิมที่เน้นเรื่องความปลอดภัยในตัวอุปกรณ์ ไปเป็นความปลอดภัยแบบองค์รวม 4 มิติ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าระบบไฟฟ้าแบบใหม่นี้มีความน่าเชื่อถือในระยะยาว
เทรนด์ที่ 6: ความปลอดภัยของระบบกักเก็บพลังงานจากเซลล์ถึงกริด
การผลักดันให้ระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ (BESS) มีการนำไปใช้ในวงกว้าง และยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยนั้น จำเป็นต้องพัฒนาระบบกักเก็บพลังงานให้มีคุณสมบัติความปลอดภัยตั้งแต่ระดับเซลล์ไปจนถึงระดับกริด
เทรนด์ที่ 7: อิเล็กทรอนิกส์กำลังระดับโมดูลและอิเล็กทรอนิกส์กำลังระดับเซลล์
ความจำเป็นในการปรับปรุงระบบจัดการนั้นได้กระตุ้นให้มีการนำโซลูชันอิเล็กทรอนิกส์กำลังระดับโมดูล (MLPE) มาจำหน่ายในวงกว้าง ทั้งยังมีอิทธิพลต่ออุตสาหกรรมการจัดเก็บพลังงานด้วย จนก่อให้เกิดโซลูชันอิเล็กทรอนิกส์กำลังระดับเซลล์ (CLPE) โดย MLPE และ CLPE ได้กลายเป็นข้อกำหนดใหม่สำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบกระจายไปแล้ว
เทรนด์ที่ 8: ไฟฟ้าแรงสูงและความน่าเชื่อถือที่สูงไม่แพ้กัน
ไฟฟ้าแรงสูงช่วยลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าต่อหน่วยปรับเฉลี่ย (LCOE) ของพลังงานแสงอาทิตย์และระบบกักเก็บพลังงาน ขณะที่ความน่าเชื่อถือสูงก็ช่วยเพิ่มความพร้อมใช้งานและบรรลุความปลอดภัยในระดับสูงสุด
เทรนด์ที่ 9: ความหนาแน่นของพลังงานสูงโดยมีความถี่สูง
ความหนาแน่นของพลังงานในอินเวอร์เตอร์ยังคงพัฒนาก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยนำเซมิคอนดักเตอร์และเทคโนโลยีดิจิทัลรุ่นที่สามมาใช้
เทรนด์ที่ 10: พลังงานคุณภาพสูง
ปรับปรุงคุณภาพพลังงานไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมการใช้เซลล์แสงอาทิตย์และระบบกักเก็บพลังงานในวงกว้างทั่วทั้งภาคอุตสาหกรรม
นวัตกรรมและคุณภาพนับเป็นปัจจัยสำคัญในอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ และหัวเว่ย ฟิวชันโซลาร์ (Huawei FusionSolar) จะเดินหน้าเพิ่มการลงทุนในการวิจัยและพัฒนาต่อไป โดยมุ่งนำเทคโนโลยีวัตต์ บิต ความร้อน และแบตเตอรี่ (4T) มาผสานรวมกันอย่างสร้างสรรค์ และให้สอดรับกับความต้องการทางธุรกิจของลูกค้า หัวเว่ยหวังสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่เชื่อถือได้และมีคุณภาพสูง เพื่อคิดค้นนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ ๆ ให้อุตสาหกรรมเซลล์แสงอาทิตย์พัฒนาก้าวหน้า หัวเว่ย ฟิวชันโซลาร์ จะร่วมมือกับลูกค้าและพันธมิตรทั่วโลก เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมให้พัฒนาอย่างมีคุณภาพ ส่งเสริมให้พลังงานแสงอาทิตย์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมกลายเป็นแหล่งพลังงานหลักสำหรับบ้านและธุรกิจทุกหนแห่ง พร้อมสร้างอนาคตที่ดีกว่าและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น