มีการใช้โดรนปฏิบัติการมากกว่า 300,000 ตัวทั่วโลกเพื่อดูแลการเพาะปลูกมากกว่า 500 ล้านเฮกตาร์รอบโลก
เซินเจิ้นประเทศจีน, 10 กรกฎาคม พ.ศ.2567 /PRNewswire/ — DJI Agriculture ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกในการอำนวยความสะดวกด้านนวัตกรรมการเกษตรผ่านเทคโนโลยีโดรนได้เปิดเผยรายงานข้อมูลเชิงลึกของโดรนเพื่อการเกษตร (2566/2567) ที่แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของอุตสาหกรรมโดรนเพื่อการเกษตรในปี 2566 รายงานนำเสนอภาพรวมที่ครอบคลุมการริเริ่มนโยบายและการใช้งานโดรนที่เกิดขึ้นใหม่ เพื่อชี้แนะแนวทางภูมิทัศน์ที่กำลังพัฒนาของเทคโนโลยีโดรนเพื่อการเกษตรสำหรับปี 2566/2567
"DJI มีเป้าหมายที่จะส่งเสริมการจัดการพื้นที่เพาะปลูกให้มีประสิทธิภาพโดยการใช้ประโยชน์จากโซลูชันดิจิทัลและโดรนอัจฉริยะ ขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม" Yuan Zhang ผู้จัดการฝ่ายขายทั่วโลกของ DJI Agriculture กล่าว "รายงานฉบับนี้เน้นย้ำว่ารัฐบาลและเกษตรกรทั่วโลกกำลังเปิดรับโดรนเพื่อการเกษตรและเทคนิคการทำฟาร์มอัจฉริยะเพื่อยกระดับการผลิตอาหารในเชิงวิทยาศาสตร์ ความยั่งยืน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น"
ข้อค้นพบที่สำคัญจากรายงานปี 2566/2567
การนำโดรนเพื่อการเกษตรมาใช้อย่างรวดเร็วทั่วโลกนี้เป็นข้อพิสูจน์ถึงพลังการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นมาใหม่ในภาคเกษตรกรรม ภายในสิ้นเดือนมิถุนายน 2567 โดรนเพื่อการเกษตรได้ทำการรักษาพื้นที่เพาะปลูกมากกว่า 500 ล้านเฮกตาร์ทั่วโลกแล้ว
ประสิทธิภาพที่โดดเด่นของโดรนเหล่านี้ช่วยให้ประหยัดได้มาก ซึ่งรวมถึงการลดการใช้น้ำสะสมลงถึง 210 ล้านเมตริกตัน และลดการใช้ยาฆ่าแมลงลง 47,000 เมตริกตัน ยิ่งไปกว่านั้น การใช้งานโดรนเพื่อการเกษตรยังลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 25.72 ล้านเมตริกตัน การลดลงนี้เทียบเคียงได้กับคาร์บอนที่ต้นไม้ 1.2 พันล้านต้นกักเก็บ เน้นย้ำถึงความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของแนวทางที่เป็นนวัตกรรมเพื่อการเกษตรสมัยใหม่นี้
แนวโน้มนโยบายทั่วโลก
รายงานตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลในหลายประเทศได้เริ่มเปิดเสรีกฎระเบียบแล้ว ในบราซิล ANAC ได้แก้ไขกฎระเบียบให้ต้องลงทะเบียนโดรนและใบอนุญาตนักบินก่อนเริ่มการบินโดรนเท่านั้น ในสหรัฐ FAA เผยแพร่รายการอนุมัติของโดรนเพื่อการเกษตรให้สามารถใช้งานได้โดยตรงโดยที่มีการยกเว้นให้ จีนออกกฎระเบียบอนุญาตให้นักบินฝึกอบรมกับผู้ผลิตโดรน
"เราตื่นเต้นกับความก้าวหน้าเกี่ยวกับกรอบของกฎระเบียบเหล่านี้ เพราะมันจะช่วยขยายการใช้งานโดรนเพื่อการเกษตรและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อเกษตรกรทั่วโลก" Zhang กล่าว
แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด
รายงานยังได้เน้นย้ำแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด นำเสนอคำแนะนำที่มีค่าเรื่องการฝึกอบรมบุคลากร เทคโนโลยีโดรน การใช้งานทางการเกษตร และการบูรณาการปฐพีศาสตร์และโดรนเข้าด้วยกัน เกษตรกรสามารถอ้างอิงคำแนะนำนี้ได้โดยตรงเพื่อดำเนินการด้านการเกษตรได้อย่างเป็นมืออาชีพยิ่งขึ้น
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
รายงานยังได้เน้นย้ำถึงความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีที่มีส่วนสนับสนุนให้อุตสาหกรรมโดรนเพื่อการเกษตรเติบโต การบูรณาการปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้ช่วยทำให้การประมวลผลข้อมูลและการตัดสินใจแม่นยำและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น การพัฒนาเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ได้ปรับปรุงความสามารถและความแม่นยำของเกษตรกรรม ความก้าวหน้าเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะเพิ่มประสิทธิภาพเท่านั้นแต่ยังลดต้นทุนให้กับเกษตรกรด้วย
การทดสอบโดรนเพื่อการเกษตรและกรณีศึกษา
DJI Agriculture และพันธมิตรได้บันทึกการทดสอบและกรณีศึกษามากมายในปี 2566 ที่ประกอบไปด้วย
- การทดสอบการลอยตัวของโดรนเกษตรรุ่น T50 และ T25 ในจีน ออสเตรเลีย และฮังการี
- การจัดการสวนส้มสะดือขนาด 10 เฮกตาร์ผ่านวงจรการเพาะปลูกโดยเกษตรกรคนเดียว
- การพ่นสารกำจัดวัชพืชเหนือฟาร์มอะกาเวในเม็กซิโก ประหยัดน้ำได้ 88% และลดต้นทุนได้มากกว่า 60 ดอลลาร์ต่อเฮกตาร์
- การฉีดพ่นวัชพืชเป้าหมายในทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ในออสเตรเลีย ประหยัดต้นทุน 50% และลดการใช้สารเคมีได้ถึง 51%
- การฉีดพ่นยาฆ่าแมลงในสวนทุเรียนขนาด 1,500 ต้นในประเทศไทย ลดการใช้สารเคมีได้ถึง 20-30%
- การฉีดสารบ่มเหนือสวนอ้อยของเกษตรกรรายย่อยในแอฟริกาใต้ เพิ่มผลผลิตน้ำตาลขั้นสุดท้ายได้ถึง 1.78 ตันต่อเฮกตาร์
บทสรุป
รายงานประจำปีของ DJI Agriculture เน้นย้ำความคืบหน้าสำคัญในอุตสาหกรรมโดรนเพื่อการเกษตรและปูทางสู่ความก้าวหน้าในอนาคต ด้วยการให้ความสำคัญกับนวัตกรรมและความยั่งยืน เรามุ่งมั่นที่จะปฏิวัติเกษตรกรรมสมัยใหม่และส่งผลกระทบเชิงบวกต่อการผลิตอาหารทั่วโลก คอยติดตามการอัปเดตครั้งถัดไปของเรา ขณะที่เราทำงานเพื่อมุ่งสู่อนาคตการเกษตรให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ฉลาดขึ้น และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
คุณสามารถอ่านรายงานปี 2566/2567 ฉบับเต็มได้ที่นี่
โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ DJI Agriculture