บากู, อาเซอร์ไบจาน, 12 พ.ย. 2567 /PRNewswire/ — ดร. Sultan Al Jaber ได้กล่าวสุนทรพจน์ส่งมอบตำแหน่งประธาน COP28 ในวันแรกของการประชุม COP29 ที่อาเซอร์ไบจาน ซึ่งถือเป็นการปิดฉากวาระการดำรงตำแหน่งเบื้องหลังความก้าวหน้าครั้งประวัติศาสตร์ในวาระด้านสภาพภูมิอากาศ โดยระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์นั้น เขาได้เรียกร้องให้แนวร่วมทุกฝ่าย "พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่าเรารวมพลัง ลงมือทำ และสร้างผลลัพธ์ได้" ในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้าที่บากู
ดร. Al Jaber กล่าวในพิธีส่งมอบตำแหน่งอย่างเป็นทางการให้แก่ ฯพณฯ Mukhtar Babayev ว่า"การบรรลุฉันทมติ UAE ครั้งประวัติศาสตร์นั้น เปิดโอกาสให้เราได้ทำในสิ่งที่หลายคนคิดว่าเป็นไปไม่ได้"
ผู้เจรจาที่งาน COP28 ได้ "พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าความร่วมมือในระดับพหุภาคีสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงและความแตกต่างได้" เขากล่าวต่อที่ประชุม "ท้ายที่สุดแล้ว ความมุ่งมั่นได้เอาชนะความสงสัย และความทุ่มเทของทุกท่านได้สร้างความก้าวหน้าด้านสภาพภูมิอากาศครั้งแล้วครั้งเล่า"
ดร. Al Jaber กล่าวว่า แม้ COP29 จะมีขึ้นในช่วงเวลาที่ซับซ้อนและเต็มไปด้วยความขัดแย้ง แต่ "สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะเลือกความร่วมมือแทนการแบ่งฝ่าย เลือกการเจรจาแทนการแตกแยก และเลือกสันติภาพแทนการยั่วยุเสมอ"
ในการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนี้ ประธานที่กำลังจะพ้นวาระรายนี้กล่าวว่าเขารู้สึก "ภูมิใจกับประสบการณ์นี้" และขอขอบคุณผู้ที่ช่วยผลักดันให้เกิด "ฉันทมติ UAE ครั้งประวัติศาสตร์ที่ครอบคลุมและสร้างความเปลี่ยนแปลง" รวมถึง His Highness Sheikh Mohamed bin Zayed Al Nahyan ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และคณะผู้นำ UAE ทั้งหมด
ฉันทมติ UAE ได้ถือกำเนิดขึ้นที่การประชุม COP28 เมื่อปีที่แล้ว นับตั้งแต่นั้นก็ได้กลายเป็นจุดอ้างอิงสำคัญของความมุ่งมั่นด้านสภาพภูมิอากาศโลกและการพัฒนาที่ยั่งยืน ฉันทมตินี้ประกอบด้วยความสำเร็จครั้งแรกหลายประการในวาระด้านสภาพภูมิอากาศ รวมถึงข้อตกลงเรื่องการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานที่เป็นธรรม เป็นระบบ และเท่าเทียม ตลอดจนเป้าหมายในการเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนเป็นสามเท่า เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานเป็นเท่าตัว และยุติการตัดไม้ทำลายป่าภายในสิ้นทศวรรษนี้
"ความก้าวหน้าไม่ได้จบลงเมื่อค้อนเคาะรับรองฉันทมติ UAE" ดร. Al Jaber กล่าว "ในช่วงหลายเดือนหลังจาก COP28 สิ้นสุดลง โครงการริเริ่มต่าง ๆ ที่เราเปิดตัวก็ได้เดินหน้าอย่างรวดเร็ว" จนถึงปัจจุบัน มีบริษัท 55 แห่งเข้าร่วมกฎบัตรการลดคาร์บอนในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ (OGDC) ครอบคลุมการผลิตน้ำมัน 44% ของทั้งโลก เขากล่าวว่า OGDC เป็น "ความร่วมมือภาคเอกชนในด้านการลดคาร์บอนที่ครอบคลุมที่สุดจนถึงปัจจุบัน"
ดร. Al Jaber ได้เน้นย้ำความสำคัญของความร่วมมือ โดยกล่าวถึงการประชุมสุดยอดที่จัดขึ้นเมื่อต้นเดือนนี้ที่อาบูดาบี ซึ่งบรรดาผู้นำด้านสภาพภูมิอากาศ พลังงาน และปัญญาประดิษฐ์ ได้มารวมตัวกัน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการเติบโตแบบคาร์บอนต่ำ
เขากล่าวว่า "เมื่อภาคส่วนต่าง ๆ ร่วมมือกันแล้ว เราก็จะยกระดับเศรษฐกิจและลดการปล่อยมลพิษได้ เราสามารถสร้างความก้าวหน้าทั้งด้านสภาพภูมิอากาศและสังคมเศรษฐกิจ และเปลี่ยนปฏิญญาบนกระดาษให้เป็นการลงมือทำที่เด็ดขาดได้จริง"
นอกจากนี้ยังมีความคืบหน้าด้านการเงิน โดยได้แต่งตั้งฟิลิปปินส์ให้เป็นประเทศเจ้าภาพสำหรับคณะกรรมการกองทุนเพื่อรับมือกับความสูญเสียและความเสียหาย ขณะที่ประธาน COP28 ได้เรียกร้องให้ภาคีต่าง ๆ สมทบทุนเข้ากองทุนนี้ ซึ่งได้เริ่มดำเนินการและระดมทุนตั้งแต่การประชุม COP28 เมื่อปีที่แล้ว จนถึงปัจจุบัน มีการให้คำมั่นสนับสนุนเงินทุนกว่า 850 ล้านดอลลาร์สหรัฐแก่กองทุนและการจัดการเงินทุน ส่วนกองทุน ALTÉRRA ซึ่งเป็นกองทุนลงทุนด้านสภาพภูมิอากาศที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่เปิดตัวที่ COP28 เช่นกันนั้น ได้จัดสรรเงิน 6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐร่วมกับนักลงทุนเพื่อสร้างผลกระทบ โดยดร. Al Jaber กล่าวว่า "นี่คือโมเดลที่เราต้องต่อยอด"
ที่การประชุม COP29 นั้น แนวร่วมต่าง ๆ ต้องกำหนดเป้าหมายเชิงปริมาณโดยรวมในด้านการเงินเพื่อสภาพภูมิอากาศที่ "เข้มแข็งและสามารถนำฉันทมติ UAE ไปปฏิบัติได้อย่างเต็มที่" ดร. Al Jaber กล่าว
"ที่ COP28 เราได้บุกเบิกและสร้างแบบอย่างใหม่ ๆ มากมาย" เขากล่าวต่อผู้แทน โดยสิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งคือการจัดตั้ง COP Presidencies Troika ซึ่งเป็น "กลไกสร้างแรงขับเคลื่อน" ใหม่ที่รวมประธานของ COP28, COP29 และ COP30 เข้าด้วยกัน
ดร. Al Jaber กล่าวว่า Troika จะยังคงขับเคลื่อนเวทีพหุภาคีต่าง ๆ ตั้งแต่สหประชาชาติไปจนถึง G20 เพื่อ "สร้างความมั่นคงเพื่อสืบสานฉันทมติ UAE" พร้อมกับเรียกร้องให้แนวร่วมทุกส่วนปฏิบัติตามแผนที่วางไว้ เพื่อควบคุมไม่ให้อุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียส
ดร. Al Jaber กล่าวปิดท้าย ด้วยการเรียกร้องให้ลงมือทำและให้คำแนะนำแก่ประธาน COP29 คนใหม่อย่าง ฯพณฯ Babayev ว่า "ฉันทมติที่เราบรรลุที่ดูไบนั้นเป็นประวัติศาสตร์ แต่ประวัติศาสตร์จะตัดสินเราจากการกระทำ ไม่ใช่คำพูด … ขอให้ความคิดบวกมีชัย และขอให้สิ่งนี้ขับเคลื่อนกระบวนการนี้ ขอให้การกระทำดังกว่าคำพูด ขอให้ผลลัพธ์อยู่ยืนยาวกว่าคำคุย และจงจำไว้ว่า เราคือสิ่งที่เราทำ ไม่ใช่สิ่งที่เราพูด"