มัสกัต โอมาน, 2 ตุลาคม 2567 /PRNewswire/ — Standard & Poor’s (S&P) ได้ปรับปรุงการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของโอมานเป็น ‘BBB-‘ จาก ‘BB+’ โดยมีมุมมองความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับมีเสถียรภาพ ซึ่งขับเคลื่อนด้วยการพัฒนาที่ดีขึ้นในผลประกอบการทางการเงินของประเทศ เช่นนี้เป็นหมุดหมายของการกลับสู่สถานะเกรดการลงทุนของโอมาน หลังจากเวลาเกือบเจ็ดปีที่ระหว่างนั้นอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศตกลงเนื่องจากการลดลงของราคาน้ำมันโลกและโควิด-19
S&P เน้นย้ำว่าการพัฒนาที่ดีขึ้นนี้เป็นผลของความพยายามที่ต่อเนื่องในการยกระดับการเงินสาธารณะผ่านโครงการปฏิรูปทางการเงินและเศรษฐกิจ ประกอบกับการปรับโครงสร้างของรัฐบาล มาตรการเหล่านี้ฟื้นฟูสมดุลระหว่างรายได้กับรายจ่ายสาธารณะ ตามที่ระบุไว้ในแผนการเงินระยะกลาง นำไปสู่การเกินดุลทางการเงิน นอกจากนี้ การให้ความสำคัญของรัฐบาลในการลดหนี้สาธารณะ การยกระดับธรรมาภิบาลของรัฐวิสาหกิจ และการลดระดับหนี้ ยังมีส่วนทำให้มีแนวโน้มเชิงบวกอีกด้วย
ราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นและการดำเนินมาตรการทางการเงินได้เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับสถานะทางการคลังของโอมาน โดยมอบความยืดหยุ่นในการจัดการกับแรงกระทบจากภายนอก S&P คาดว่างบประมาณของโอมานจะสร้างการเกินดุลทางการเงิน 1.9% ระหว่างปี 2567-2570 โดยสมมติว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์เฉลี่ยอยู่ที่ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลระหว่างปี 2568 ถึง 2570 เช่นนี้จะช่วยให้รัฐบาลสามารถลดหนี้สาธารณะและสร้างทุนสำรอง สำหรับจีดีพีที่แท้จริงของโอมานนั้นคาดว่าจะเติบโต 2% ต่อปี โดยการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นจะกระตุ้นการเติบโตของภาคที่ไม่ใช่น้ำมันราว 2% ต่อปี คาดว่าดุลบัญชีเดินสะพัดจะรักษาระดับเกินดุล เฉลี่ยอยู่ที่ 1.2% ของจีดีพีระหว่างปี 2567-2570
S&P ย้ำความมุ่งมั่นของโอมานในการลดหนี้สาธารณะ โดยพยากรณ์ว่าจะแตะ 29% ของจีดีพีภายในปี 2570 บ่งชี้ว่าสินทรัพย์สภาพคล่องจะอยู่ที่ราว 36% ของจีดีพีจนถึงปีดังกล่าว
คาดว่าเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับปานกลาง เฉลี่ยอยู่ที่ 1.4% ต่อปีระหว่างปี 2567-2570 หลังจากอัตราต่ำสุดที่ 0.9% ในปี 2566 สินเชื่อภาคเอกชนขยายตัว 4.9% ในปี 2566 และคาดว่าเงินกู้จะเติบโต 5%-6% ต่อปี สนับสนุนโดยสภาพทางสินเชื่อที่เอื้ออำนวย
S&P ระบุว่าความพยายามของรัฐบาลในการบริหารจัดการรัฐวิสาหกิจตั้งแต่ปี 2563 ได้ยกระดับธรรมาภิบาล ประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน และผลประกอบการทางการเงิน โดยมีการทำกำไรสูงขึ้นและระดับหนี้ลดลง การก่อตั้ง Oman Energy Development Company (EDO) และ Integrated Gas Company (IGC) ยังปรับปรุงบัญชีการเงินของรัฐบาลด้วยการสะท้อนรายได้สุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายของภาคน้ำมันและก๊าซ
อันดับความน่าเชื่อถือของโอมานสามารถปรับให้ดีขึ้นได้อีกในช่วงสองปีข้างหน้าถ้ารัฐบาลบริหารจัดการการเงินสาธารณะต่อไปตามแผน โดยเพิ่มรายได้จากภาคที่ไม่ใช่น้ำมันและยกระดับประสิทธิภาพการใช้จ่ายของภาครัฐ มาตรการเหล่านี้จะสนับสนุนการเติบโตของจีดีพี ขับเคลื่อนโดยกระแสแนวโน้มในปัจจุบันในภาคที่ไม่ใช่น้ำมัน ประกอบกับความพยายามที่ต่อเนื่องในการส่งเสริมการกระจายความหลากหลายทางเศรษฐกิจและการพัฒนาตลาดทุน
ในการนี้ His Excellency Sultan bin Salim Al Habsi รัฐมนตรีการคลังของโอมาน ชี้ว่าผลการจัดอันดับที่ดีขึ้นสะท้อนความมุ่งมั่นทุ่มเทของรัฐบาลในด้านดุลทางการคลังและความยั่งยืนทางการเงิน ผลการจัดอันดับเช่นนี้เพิ่มความมั่นใจในเศรษฐกิจและความดึงดูดในการลงทุนของโอมาน ภายหลังจากผลลัพธ์เชิงบวกในการปฏิรูปทางการเงิน รวมถึงกฎหมายหนี้สาธารณะ (Public Debt Law) ซึ่งเสริมสร้างธรรมาภิบาลและยกระดับสภาพแวดล้อมการลงทุน
รัฐมนตรีกล่าวเสริมว่ารัฐบาลยังคงมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตัวบ่งชี้การเงินสาธารณะ ประกอบกับใช้ประโยชน์จากการเกินดุลทางการเงินเพื่อส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจและสังคม ความสำเร็จเหล่านี้เป็นผลจากการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยต่าง ๆ ของรัฐบาล พันธมิตรในภาคเอกชน และสถาบันประชาสังคม
ติดต่อสอบถาม:
Muhja Khalfan Al Daairi
Muhja.daairi@mof.gov.om
+968 99805058
รูปภาพ – https://mma.prnasia.com/media2/2520861/Ministry_of_Finance_Oman.jpg?p=medium600