 |
อาบูดาบี, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, 15 สิงหาคม 2567 /PRNewswire/ — ADGM ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการเงินระหว่างประเทศ (IFC) แห่งเมืองหลวงของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้รายงานผลการดำเนินงานที่โดดเด่นในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องในฐานะสถาบันการเงินที่เติบโตเร็วที่สุด ความสำเร็จอย่างต่อเนื่องและความริเริ่มเชิงกลยุทธ์ของ ADGM คือตัวเร่งการเติบโตของภาคการเงินในอาบูดาบีในฐานะเขตอำนาจศาลเพียงแห่งเดียวที่มีการบังคับใช้กฎหมายทั่วไปของอังกฤษโดยตรงในภูมิภาค
การเติบโตของ ADGM ช่วยสนับสนุนการมีส่วนร่วมของภาคการเงินต่อเศรษฐกิจในด้านที่ไม่ข้องเกี่ยวกับน้ำมันของอาบูดาบี ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็น 9.7% ในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 ADGM กำลังกลายเป็นแหล่งดึงดูดบริษัทบริหารสินทรัพย์ ผู้มีพรสวรรค์ที่โดดเด่น และการลงทุนระดับโลก รวมถึงเป็นรากฐานที่สำคัญในการผลักดันสถานะของอาบูดาบีให้เป็น ‘เมืองหลวงแห่งทุน’
Ahmed Jasim Al Zaabi ประธาน ADGM กล่าวถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องและผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของ ADGM ว่า "ในฐานะที่เป็นตัวเร่งสำหรับภาคการเงินของอาบูดาบี การเติบโตอย่างโดดเด่นของ ADGM ในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ช่วยส่งเสริมสถานะของอาบูดาบีในฐานะศูนย์กลางชั้นนำและจุดหมายปลายทางของบริษัทและสถาบันการเงินระดับโลก ระดับภูมิภาค และระดับท้องถิ่น กลยุทธ์ของ ADGM สอดคล้องกับความเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ของอาบูดาบีในการวางสถานะเป็นศูนย์กลางทางการเงินระหว่างประเทศชั้นนำ นอกจากนี้ การสร้างระบบนิเวศที่เจริญรุ่งเรืองและการแสวงหานวัตกรรม ความเป็นเลิศ และการพัฒนาเชิงกลยุทธ์ของเรา ทำให้เราก้าวสู่ความสำเร็จอันโดดเด่นตามเป้าหมายกลยุทธ์การเติบโตของ ADGM ปี 2566-2570 ตอกย้ำการเติบโตที่รวดเร็วของอุตสาหกรรมการเงินในอาบูดาบี"
เขากล่าวเสริมว่า "การมีส่วนร่วมของ ADGM ในการยกระดับสถานะของอาบูดาบีให้กลายเป็นมหาอำนาจทางการเงินระดับโลกและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน จะยังคงอาศัยโอกาสที่จะช่วยยกระดับ Falcon Economy ของอาบูดาบีให้สูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนตลอดปีที่ประสบความสำเร็จเป็นพิเศษนี้และปีต่อ ๆ ไป"
องค์กรและการออกใบอนุญาตใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วสะท้อนถึงการเติบโตที่แข็งแกร่ง
ตัวเลขสำคัญประการหนึ่งในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 คือจำนวนองค์กรที่เพิ่มขึ้นแตะ 2,088 แห่ง ครอบคลุมหน่วยงานที่ให้บริการทางการเงิน 231 แห่ง ซึ่งเพิ่มขึ้น 31% เมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปี 2566 การเติบโตนี้ยังมาพร้อมจำนวนสิทธิ์บริการทางการเงิน (FSP) ที่ออกในระหว่างช่วงหกเดือนแรกซึ่งอยู่ที่ 42 รายการ เพิ่มขึ้นมากกว่า 90% เมื่อเทียบกับตัวเลขในเดือนมิถุนายน 2566 ซึ่งอยู่ที่ 22 รายการ
นอกจากนี้ จำนวนใบอนุญาตที่ออก ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2567 ยังครอบคลุมใบอนุญาตใหม่จำนวน 1,271 รายการ เพิ่มขึ้น 20.5% จากปีก่อนหน้า
ภาคบริการทางการเงินที่นำโดยฝ่ายบริหารสินทรัพย์ ช่วยให้อาบูดาบีกลายเป็นศูนย์กลางทางการเงินของภูมิภาค
ในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ADGM มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้น 226% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2567 กองทุนและผู้จัดการสินทรัพย์ที่ดำเนินงานใน ADGM มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 112 ราย และบริหารจัดการกองทุนจำนวน 141 แห่ง
สำหรับรายชื่อในภาคการจัดการสินทรัพย์ที่ได้รับ FSP ได้แก่ AXA IM, Eiffel Investment ME, GQG Partners, SS&C Financial Services และ Morgan Stanley นอกจากนี้ หน่วยงานหลายแห่งในภาคส่วนยังได้รับการอนุมัติ In-Principle Approval (IPA) อีกด้วย เช่น Aspen Digital, Blantyre Capital, Blue Owl, Fiera Capital, Infini Capital, I Squared Capital, Ninety One Gulf Capital, Peninsula, Token Bay Capital, Triton และ Vizier โดยองค์กรต่าง ๆ ในภาคการจัดการสินทรัพย์ยังคงมีความแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นกองทุนบริหารความเสี่ยง ไพรเวตอิควิตี้ กองทุนสถาบัน และบริษัทร่วมลงทุนที่เตรียมลงหลักปักฐานใน ADGM
ในขณะที่ภาคการจัดการสินทรัพย์ยังคงเป็นผู้นำการเติบโตของ ADGM หน่วยงานที่ให้บริการทางการเงินอื่น ๆ ในภาคส่วนการธนาคาร บริการการชำระเงิน การบริหารความมั่งคั่ง และประกันภัย ยังได้เข้าร่วมในระบบนิเวศของ ADGM ผ่านการได้รับ FSP หรือ IPA โดยรายชื่อองค์กรที่ได้รับ FSP นั้นประกอบด้วย Barrenjoey, Deutsche Bank AG, Fidelis OPCO, Laser Digital และ Paxos Issuance MENA ขณะที่องค์กรเด่นซึ่งได้รับ IPA ประกอบด้วย Oyster Reinsurance Brokers และ SMBC Bank International และอื่น ๆ อีกมากมาย
ในเดือนพฤษภาคม 2567 ADGM ยังได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม UAE-France Investors Meetup ครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นการประชุมพิเศษที่นำโดย ฯพณฯ Bruno Le Maire รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ การเงิน อุตสาหกรรม และอธิปไตยดิจิทัลของฝรั่งเศส ร่วมกับบริษัทจัดการสินทรัพย์ของฝรั่งเศส 24 แห่งที่มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารรวมกว่า 1.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยงานในครั้งนี้มอบโอกาสพิเศษสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของทั้งสองประเทศในการสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ สำรวจโอกาสใหม่ ๆ และขับเคลื่อนการเติบโตร่วมกัน
เปิดตัวอาบูดาบีสู่เวทีโลก: โรดโชว์ระดับนานาชาติเพื่อตอบสนองความต้องการที่ไม่เคยมีมาก่อน
ADGM ยังจัดกิจกรรมโรดโชว์หลายครั้งในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ครอบคลุมหลายประเทศและภูมิภาค รวมถึงสหรัฐอเมริกา ยุโรป ฮ่องกง และอนุทวีปจีน
ในสหรัฐอเมริกา ADGM ยังมีส่วนร่วมในการอภิปรายทวิภาคีมากกว่า 40 ครั้งร่วมกับกองทุนป้องกันความเสี่ยง กองทุนหุ้นเอกชน และบริษัทร่วมลงทุนในงาน iConnections Global Alts ประจำปี 2567 ขณะที่ในยุโรป ADGM ได้จัดการอภิปรายทวิภาคีมากกว่า 100 ครั้งร่วมกับผู้นำอาวุโสในภาคการธนาคารเอกชน การบริหารความมั่งคั่ง ไพรเวตอิควิตี้ ธุรกิจการร่วมลงทุน และกองทุนบริหารความเสี่ยงของฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ และศูนย์กลางอื่น ๆ ในยุโรป การมีส่วนร่วมเหล่านี้เกิดขึ้นท่ามกลางการหลั่งไหลของความมั่งคั่งทั่วโลกสู่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
การจัดโรดโชว์ในจีนและฮ่องกงยังปิดท้ายด้วยการประชุมเชิงกลยุทธ์ที่ครอบคลุมองค์กรกว่า 75 แห่ง มุ่งเน้นไปที่ความร่วมมือด้านกฎระเบียบข้ามพรมแดนร่วมกับหน่วยงานการเงินของฮ่องกง แผนการขยายธุรกิจสำหรับบริษัทฮ่องกงและจีนหลายแห่งในอาบูดาบี และการปรับปรุงกลยุทธ์สภาพคล่องในทั้งสองภูมิภาค นอกจากนี้ยังมีการประชุม Shanghai Investment Summit ที่จัดโดย ADIO ครอบคลุมการประกาศฟอรัมการค้าแห่งใหม่ ‘The UAE-China Summit presented by HSBC’ ซึ่งกำหนดให้เป็นกิจกรรมย่อยของสัปดาห์การเงินอาบูดาบี (Abu Dhabi Finance Week – ADFW) ในเดือนธันวาคมนี้
ผู้นำด้านการเงินที่ยั่งยืนและแนวคิดด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) แห่งภูมิภาค
หลังการเปิดตัวกรอบการทำงานด้านการเงินที่ยั่งยืนครั้งแรกของภูมิภาคในปี 2566 หน่วยงานของ ADGM อย่าง Registration Authority (RA) และ Financial Services Regulatory Authority (FSRA) ได้เสนอให้มีการปรับปรุงกฎระเบียบเหล่านี้ โดยเอกสารอภิปรายที่ตีพิมพ์ในเดือนพฤษภาคม 2567 ได้สำรวจความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม ครอบคลุมผู้จัดการกองทุน ผู้จัดการสินทรัพย์ และบริษัทที่อยู่ภายใต้ข้อบังคับ Companies Regulations 2020 ข้อเสนอปรับปรุงเหล่านี้ให้ความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับข้อกำหนดของ FSRA สำหรับผลิตภัณฑ์การลงทุนด้าน ESG ซึ่งมีวัตถุประสงค์ด้านความยั่งยืนที่ครอบคลุมขึ้นมากกว่าแค่เพียงด้านสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังส่งเสริมความต้องการผลิตภัณฑ์และบริการที่ "เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม" อย่างแท้จริง โดยการทำให้นักลงทุนมั่นใจว่ามีการดำเนินการเพื่อป้องกันการแอบอ้างถึงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ รายงานคำปรึกษายังเชิญชวนให้มีการอภิปรายเกี่ยวกับบทบาทของ ADGM ในการสนับสนุนหน่วยงานที่ตั้งอยู่ใน ADGM เพื่อระบุและแก้ไขความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของตน และพัฒนาแผนการเปลี่ยนแปลงสู่การปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนโครงการริเริ่มเชิงกลยุทธ์ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในการทำให้คาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593
แนวหน้าแห่งนวัตกรรมบล็อกเชน
หลังจากการเปิดตัว Distributed Ledger Technology (DLT) Foundations Regulations ADGM ได้ลงนามความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ร่วมกับ Solana Foundation ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่อุทิศตนเพื่อการกระจายศูนย์ การยอมรับ และการรักษาความปลอดภัยบนเครือข่าย Solana สำหรับการยกระดับโซลูชัน DLT และนวัตกรรมบล็อกเชนขั้นสูง นอกจากนี้ ADGM ยังได้ลงนามบันทึกความเข้าใจอีกฉบับร่วมกับ Hacken ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกด้านการตรวจสอบความปลอดภัยบนบล็อกเชน เพื่อร่วมกันกำหนดเกณฑ์มาตรฐานใหม่สำหรับการรักษาความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านบล็อกเชน รวมถึงโซลูชันการตรวจสอบแบบออนเชนที่เกี่ยวข้องกับกรอบงาน DLT Foundations ของ ADGM
จำนวนบุคลากรใน ADGM ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วท่ามกลางแรงดึงดูดที่เพิ่มขึ้นของอาบูดาบี ด้วยตำแหน่งงานใหม่มากกว่า 2,500 ตำแหน่ง
การลงทุนอย่างต่อเนื่องในภาคส่วนต่าง ๆ ในอาบูดาบีนำไปสู่ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งใน Global Liveability Index ประจำปี 2567 ที่เผยแพร่โดย Economist Intelligence Unit โดยอาบูดาบีเป็นเมืองที่มีอันดับสูงสุดในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ตอกย้ำจุดแข็งของอาบูดาบีในด้านปัจจัยต่าง ๆ เช่น เสถียรภาพ โครงสร้างพื้นฐาน และการศึกษา
ADGM กำลังเพิ่มความน่าดึงดูดในฐานะจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับมืออาชีพและนักลงทุน โดยมีบุคลากรภายในเกาะ Al Maryah เพิ่มขึ้นมากกว่า 2,500 คน เมื่อเทียบกับช่วงสิ้นเดือนมิถุนายน 2566 และปัจจุบันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่มีชีวิตชีวาของ ADGM
การขยายเกาะ Al Reem ของ ADGM ช่วยเพิ่มจำนวนที่อยู่อาศัย
นับตั้งแต่การประกาศขยายในเดือนเมษายน 2566 เกาะ Al Reem ได้เปิดตัวที่พักอาศัยใหม่จำนวน 1,266 หน่วย ส่งผลให้มียอดรวมทั้งหมดอยู่ที่ 21,335 หน่วย ขณะที่การเติบโตของอัตราการเข้าพักยังคงทรงตัว โดยเพิ่มขึ้นจาก 84.78% ในเดือนมีนาคม 2566 เป็น 92.82% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2567 การเติบโตที่โดดเด่นของ ADGM ส่งผลให้พนักงานจำนวนมากของบริษัทใหม่หลายแห่งที่จัดตั้งขึ้นภายในพื้นที่เลือกเกาะ Al Reem เป็นสถานที่พักอาศัย เขตอำนาจศาลของ ADGM ที่ครอบคลุมทั้งเกาะ Al Maryah และ Al Reem จึงตอกย้ำถึงคุณสมบัติที่โดดเด่นในฐานะสถานที่ที่เหมาะสำหรับทั้งการอยู่อาศัย การทำงาน และการดำเนินธุรกิจ
ADGM บุกเบิกการย้ายธุรกิจอย่างราบรื่นบนเกาะ Al Reem
ช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ถือเป็นช่วงสำคัญในการเปลี่ยนแปลงหลังการขยายเกาะ Al Reem ของ ADGM โดยโครงการริเริ่มล่าสุดประกอบด้วยการแก้ไขตารางค่าธรรมเนียมใบอนุญาตของ ADGM ซึ่งสอดคล้องกับการจัดการในช่วงเปลี่ยนผ่านของเกาะ Al Reem ขณะที่ส่วนลดกว่า 50% ขึ้นไปสำหรับใบอนุญาตสำหรับธุรกิจที่ไม่ใช่เพื่อการเงินและธุรกิจค้าปลีกภายในเขตอำนาจศาลของ ADGM จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัวศูนย์ข้อมูลใน Shams Boutique Mall และมีการจัดกิจกรรมชุมชน 2 ครั้งในปี 2567 เพื่อเข้าถึงชุมชนธุรกิจของเกาะ Al Reem โดยให้ข้อมูลอัปเดตที่จำเป็นเกี่ยวกับใบอนุญาต ค่าธรรมเนียมการลงทะเบียน และขั้นตอนในการเปลี่ยนแปลง ADGM ยังนำเสนอสิ่งจูงใจสำหรับธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจทางการเงินและธุรกิจค้าปลีกที่มีอยู่เดิมบนเกาะ Al Reem โดยยกเว้นการจ่ายค่าธรรมเนียมใด ๆ สำหรับใบอนุญาตเชิงพาณิชย์ของ ADGM หากลงทะเบียนก่อนวันที่ 31 ตุลาคม 2567
โครงการริเริ่มโดย ADGM Academy ปูเส้นทางสายอาชีพสำหรับชาวเอมิเรตส์ 1,020 คนในช่วงครึ่งแรกของปี 2567
ADGM Academy (ADGMA) มีส่วนร่วมในวาระแห่งชาติของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์โดยการร่วมมือกับผู้เล่นชั้นนำจากภาคส่วนต่าง ๆ โดยนับตั้งแต่การก่อตั้ง ADGMA ได้บรรลุการจ้างงานกว่า 98% ในหมู่ชาวเอมิเรตส์ 3,629 คนโดยภาคเอกชนผ่านวาระการพัฒนาแห่งชาติ
ในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 โครงการริเริ่มของ ADGMA ยังสนับสนุนการฝึกอบรมและการจัดหาตำแหน่งงานให้แก่ชาวเอมิเรตส์ 1,020 คนในบริษัทต่าง ๆ ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
โลโก้: https://mma.prnasia.com/media2/1696045/Abu_Dhabi_Global_Market_Logo.jpg?p=medium600
